เทคนิคการ ออกกำลังกายอย่างถูกต้อง

สำหรับใครที่ชอบอยู่บ้านนั่งๆนอนๆเล่นเกมสล็อตpg แล้วรู้สึกอึดอัดตัวอยากออกกำลังกายให้ร่างกายได้เผาผลาน วันนี้เรามีเทคนิคการเตรียมตัวสำหรับเริ่มออกกำลังกาย เพื่อให้เรานั้นได้รู้สึกว่าเรานั้นมีสุขภาพทีดีและสามารถทำอะไรได้หลายอย่างในแต่ละวัน และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มสมาธให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และจะมีการออกกำลังกายแบบไหนที่เรานั้นสามารถที่จะเล่น สล็อตpg ไปด้วย และออกกำลังกายไปด้วย มาดูกัน

ประเภทการออกกำลังกายมีอะไรบ้าง

การออกกำลังกายมีหลายรูปแบบผู้คนมักเลือกออกกำลังกายเฉพาะที่ตนเองสนใจ จริงๆแล้วนั้นการออกกำลังกายให้ครบทุกรูปแบบจะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายทุกด้านให้ดีขึ้น และส่งผลให้สุขภาพร่างกายเรานั้นดีขึ้นตามอีกด้วยโดยการออกกำลังกายนั้นจะมาวสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆได้แก่ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก การออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อ และการออกกำลังกายเสริมการทรงตัว นั่นเอง

การออกกำลังกายแบบแอโรบิก

การออกกำลังกายประเภทนี้ถือว่าสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย โดยช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจดีขึ้นและยังช่วยขยายผนังหลอดเลือดพร้อมกับลดความดันโลหิต เผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการอักเสบ และเพิ่มระดับไขมันดี โดยการออกกำลังกายแบบแอโรบิกควบคู่กับการลดน้ำหนักยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ควรทำกิจกรรมต่อเนื่องกันอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือสัปดาห์ละ 150 นาที สามารถทำกิจกรรมเข้าจังหวะสล็อตpg อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายแบบแอโรบิกควรอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมไม่ควรหักโหมจนหายใจไม่ทันเพราะอาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพท่านเอง

การออกกำลังแบบฝึกกล้ามเนื้อ

ร่างกายจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามอายุที่มากขึ้น การออกกำลังฝึกกล้ามเนื้อจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่สูญเสียไปได้ โดยสามารถใช้อุปกรณ์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อ ยางยืดสำหรับออกกำลังกาย หรือของใช้ต่างๆภายในบ้านมาประยุกต์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อควรบริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่สัปดาห์ละ 2 วันหรือมากกว่านั้น และฝึกกล้ามเนื้อครั้งละประมาณ 30 นาที โดยห้ามฝึกกล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกันติดกัน 2 วัน การออกกำลังชนิดนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกและจะลดน้ำตาลในเลือดพร้อมทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยจัดท่าทางร่างกายและการทรงตัว รวมทั้งลดอาการตึงหรือปวดบริเวณหลังส่วนล่างและข้อต่อจากการเล่นสล็อตpg อย่างไรก็ตามการออกกำลังฝึกกล้ามเนื้อควรคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพเป็นสำคัญซึ่งทำได้ ควรเริ่มยกเวทหรือดัมเบลที่มีน้ำหนักประมาณ 0.5–1 กิโลกรัม เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ โดยเริ่จากน้ำหนักเบาก่อน แล้วค่อยเพิ่มน้ำหนักขึ้น เนื่องจากการเริ่มฝึกด้วยอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้บาดเจ็บได้ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาสมรรถภาพในการฝึกกล้ามเนื้อและส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกกล้ามเนื้อควรมีน้ำหนักที่ผู้ฝึกสามารถบริหารกล้ามเนื้อในแต่ละเซตได้อย่างน้อย 8 ครั้ง ไม่ควรมีน้ำหนักมากเกินไปจนไม่สามารถฝึกครบจำนวนครั้งในแต่ละเซตควรฝึกกล้ามเนื้อแต่ละท่าโดยเริ่มยกหรือออกแรงฝึก 3 วินาที ค้างไว้ 1 วินาที และกลับมาอยู่ท่าเริ่มต้นอีก 3 วินาที โดยไม่ควรทิ้งอุปกรณ์ทันทีแต่ควรผ่อนลงช้า ๆควรฝึกกล้ามเนื้อแต่ละท่าให้ได้ประมาณ 10–15 ครั้ง หากทำได้ไม่ครบ อาจทำเท่าที่ได้ก่อน แล้วค่อยเพิ่มจำนวนมากขึ้น และที่สำคัญการออกกำลังแบบนี้ไม่ควรกลั้นลมหายใจขณะฝึกกล้ามเนื้อ เนื่องจากอาจทำให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหัวใจควรหายใจสม่ำเสมอขณะออกกำลังโดยสามารถหายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปากหรือหายใจเข้าและออกทั้งทางจมูกและปากได้ในกรณีที่รู้สึกหายใจไม่สะดวก ควรหายใจออกเมื่อออกแรงฝึกและหายใจเข้าเมื่อผ่อนแรงลงควรออกกำลังในแต่ละท่าอย่างช้าๆและถูกจุดที่บริหาร ไม่ควรรีบจนเกินไป เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บไม่ควรเกร็งข้อต่อแขนหรือขาขณะอยู่ในท่าเกร็งกล้ามเนื้อที่ฝึกอาการปวดและเมื่อยล้ากล้ามเนื้ออาจปรากฏประมาณ 2–3 วัน หลังจากฝึกกล้ามเนื้อซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากออกกำลังกายซ้ำมาสักประมาณ 2–3 สัปดาห์

การออกกำลังเสริมการทรงตัว

สำหรับท่านใดที่มีอายุมากขึ้นจะสูญเสียระบบที่ช่วยเรื่องการทรงตัวของร่างกาย อย่าง การมองเห็น หูชั้นใน หรือกล้ามเนื้อขาและข้อต่อ การออกกำลังเสริมการทรงตัวจะช่วยให้ร่างกายทรงตัวได้ดีขึ้นอีกทั้งยังป้องกันการหกล้ม โดยทั่วไปแล้ว การออกกำลังชนิดนี้ทำได้บ่อยตามต้องการเนื่องจากการออกกำลังเสริมการทรงตัวบางท่าก็รวมอยู่ในการฝึกกล้ามเนื้อร่างกายส่วนล่างบางท่าด้วย ทั้งนี้ การออกกำลังเสริมการทรงตัวสามารถฝึกได้เอง

ออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะสม

สำหรับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ โดยควรออกกำลังกายให้เหมาะสมตามวัยและอายุของตน โดยสามารถที่จะแบ่งให้เข้าใจง่ายก็คือ
1. ทารก พ่อแม่ควรดูแลทารกโดยพ่อแม่ควรช่วยให้เด็กเกิดการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนต่างๆเป็นประจำทุกวันเพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็ก
2. เด็กหัดคลาน ควรเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายแต่ละส่วน 30 นาที และทำกิจกรรมเล่นทั่วไป 60 นาที และเฝ่าดุแลอย่างใกล้ชิด
3. เด็กก่อนวัยเรียน ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมงโดยออกกำลังกาย 60 นาที และทำกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆเพื่อเคลื่อนไหวร่างกาย 60 นาที และเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กด้วย
4. เด็กอายุ 5–18 ปี ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 60 นาที
5. ผู้ใหญ่อายุ 19–64 ปี ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่มีความหนักปานกลางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่มีความหนักระดับเข้มข้นสัปดาห์ละ 75 นาที
6. ผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไป ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่มีความหนักระดับปานกลางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่มีความหนักระดับเข้มข้นสัปดาห์ละ 75 นาที